นกหงษ์หยก
นกหงษ์หยก (Zebra parakeet)
ชื่อวิทยาศาสตร์ malopsittacus Undulatus
ประวัติและความเป็นมา
ถิ่นกำเนิดเดิมของนก Budgerigar นั้นชอบอาศัยอยู่ตามทุ่งหญ้าในออสเตรเลียปัจจุบันชอบเรียกชื่อนกชนิดนี้สั้นๆว่า
บั๊ดจี้ส์ Budgiges และ parakeet ในก่อนหน้านี้มีคนเข้าใจว่า นกประเภทนี้อยู่ในจำพวกนก Lovebird แต่ในปัจจุบันนี้เข้าใจกันแล้วว่าเป็นคนละชนิดกัน ชื่อเรียกว่า Busgiges เป็นชื่อที่เรียกเพี้ยนมาจากคนพื้อนบ้านแถบนั้น Betcherrygah แปลว่า อาหารที่ดี กินอร่อย บุคคลแรกที่ศึกษาและค้นคว้าเกี่ยวกับนกกลุ่มนี้ เป็นนกกลุ่มใหม่ เป็นนักสัตว์ศาสตร์ชาวอังกฤษ ชื่อ กูลด์ gould ซึ้งได้เข้าไปศึกษาชีวิตความเป็นอยู่ของสัตว์ต่างใน ออสเตรเลีย เมื่อ 110 ปีที่แล้ว
ชนิดและสีของนกหงษ์หยก สีที่เป็นพื้นฐานของนกหงษ์หยกธรรมดา มีสี เขียว ฟ้า เหลือง ขาว สีที่เอยมามีชื่อที่เรียกแยกตามสีอีกตามความแก่ อ่อน ของสีนกแต่ละตัว
นอกจากนี้ยังมีสีที่ควรทราบอีก 3 สีดังนี้
โอแพล์ลิน Opaline ชนิดนี้ไม่ได้เจาะจงว่าเป็นสีใดโดยเฉพาะ แต่จะมีลักษณะที่สังเกตุเห็นดังนี้ บนคอ ใต้คอ และ ตรงขอบปีกติดกับไหล่จะไม่มีลายจุด และจะต้องมีสีเหมือนกับสีของลำตัว สีพื้นของปีกมีลายก็มี มีสีประมาณลำตัวก็มี นกชนิดธรรมดา จะมีสีเขียว มีหัวสีเหลือง ใต้คอเหลือง มีจุด 6 จุด และพื้นปีกสีเหลือง
เผือก อัลบิโนส์ Albinos ลักษณะที่สังเกตุคือ จะมีสีเดียวทั้งตัว ปลอดเลย เริ่มตั้งแต่สีขาวไปจนถึงสีฟ้าทั้งตัวเลย
ลูติโนส์ Lutinos เป็นนกที่มีสีเหลืองปลอด หรือมีสีคอนข้างไปทางเขียวมากหน่อยทั้ง 2 ชนิดคือ ขาวและเหลือง ลักษณะที่สำคัญคือ ต้องมีในตาสีแดง
ลักษณะทั่วไปของนก
นกหงษ์หยกเป็นนกที่มีขนาดเล็ก มีลวดลายที่สวยงาม สีสันเยอะ และสามารถแยกเป็นหลายพันธุ์ในตระกูลเดียวกัน นกหงษ์หยกเป็นนกที่ชอบแต่งตัวรักสวยรักงาม รักความสะอาด ชอบแต่งขนหน้ากระจก เพราะฉนั้นเราควรหากระจกไว้ในกระกรงให้นกด้วย ให้พอกับจำนวนของนกไม่เช่นนั้นนกจะตีกัน บ้างครั้งเราควรฉีดน้ำให้นกด้วย ฟร้อคกี้ หรือ ที่ฉีดน้ำเป็นฝอยๆ ซึ้งนกจะมาเล่นน้ำและแต่งขนในตัว จะทำให้นกนั้นมีสีที่สวยงาม น่ามอง
การดูเพศของนก
การดูเพศของนกหงษ์หยกนั้นไม่ยากอย่างที่คิด โดยเราจะดูที่จมูกของนก โดยนกตัวผู้ที่โตเจริญเต็มวัยแล้ว จะมีจมูกสีฟ้าเข้ม ส่วนตัวเมียนั้นเมื่อเจริญเต็มวัยแล้วจะมีจมูกสีน้ำตาลเข้ม สีจะเข้มขึ้นเรื่อยเมื่อฤดูผสมพันธ์
นกหงษ์หยกเมื่อถึงฤดูผสมพันธ์จะจับคู่กัน แต่งขนให้กัน ป้อนอาหารให้กัน หาที่เงียบๆมุมส่วนตัว
การเลี้ยงดู
นกหงษ์หยกนั้นสามารถเลี้ยงดูได้ง่าย ส่วนมากจะเลี้ยงในกรงขนานใหญ่ พอที่นกจะบินได้ และ มีขนานที่พอเหมาะกับจำนวนของนกด้วย ต่ำแหน่งที่วางกรงนั้ไม่ควรมีอากาศร้อนมาก และ มีลมโกรกมาก ควรไว้ตรงที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก อาหารและน้ำต้องมีให้เพียงพอต่อนก ควรเปลี่ยนน้ำทุกวัน เพื่อเป็นการไม่สะสมโรค และควรมี แคลเชียม ให้นกด้วยนกจะแข็งแรง
อาหารของนก
ข้าวฟาง คืออาการหลักของนกหงษ์หยก หาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไป หรือร้านขายอาหารสัตว์ ถุงหนึ่งประมาณ 20 ควรซื้อที่เขาแบ่งขายเล็กดีกว่าเพราะจะดูสดใหม่ตลอด แต่ถ้าเลี้ยงเยอะก็ยกกระสอบมาเลยเพราะราคาจะถูกกว่า แบ่งขาย
เมล็ดกรวด แคลเซียม (กระดองปลาหมึก) เป็นสิ่งสำคัญของนกเลยทีเดียว จากประสบการณ์ของผ้เลี้ยงเองก็คิดว่าสำคัญมาก เพราะจะช่วยเรื่องการย่อยอาหารของนก ถ้าขาดของพวกนี้นกจะไม่แข้งแรง มีอาการผิดปกติต่างๆ เมล็ดกรวดควรล้างน้ำให้สะอาด ส่วนแคลเซียมหาซื้อได้ตามร้านขายอาหารสัตว์หรือร้านขายนกในราคา 5-10 บาทถ้าหาไม้ได้ก็ไปเดินดูแถวจตุจักรก็ได้มีแน่นอน
ผักใบเขียว เป็นตัวบำรุ่งนก เช่น ใบกระเพรา กระหล่ำ ผักกาด ผักบุ้ง ถั่ว เป็นต้น ควรล้างน้ำให้สะอาดเสียก่อนนะ เพื่อสุขภาพของนก
น้ำ เป็นสิ่งสำคัญมาก ควรใส่น้ำที่สะอาดอยู่เสมอ ถ้าให้ดีควรเปลี่ยนทุกวัน เพราะถ้าในกรงมีนกที่ป่วย ขี้ลงในน้ำอาจทำให้นกตัวอื่นๆ ป่วยตามอีกและจะติดกันทั้งกรง
|